ประวัติศาสตร์การทอ่งเที่ยวจากยุคเริ่มต้นถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่2
การศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์ของการท่องเที่ยวเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจและศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยวเนื่องจากมีบทเรียนจากประวัติศาสตร์มากมายที่จะต้องจดจำและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับการท่องเที่ยวในปัจจุบัน
การท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจสามารถจะสืบย้อนได้ไปถึงสมัยที่ยังมีอาณาจักรBabylonianและอาณาจักรEgyptianหลักฐานที่สนับสนุนการกล่าวอ้างนี้ก็คือได้มีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุขึ้นเพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปชมในนครได้เมื่อประมาณ2600ปีมาแล้ว
นักท่องเที่ยวชาวกรีกมีการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวเมื่อประมาณ300ปีก่อนคริสตกาลหรือ2300ปีมาแล้วนักท่องเที่ยวชาวกรีกจะนิยมเดินทางไปยังสถานที่ที่เชื่อว่าเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าที่ทำการบำบัดรักษาโรค เนื่องจากกรีกมีการปกครองในแบบนครรัฐ
มัคคุเทศก์และคู่มือนำเที่ยวในยุคต้น
ความรู้ที่เรามีเกี่ยวกับการเดินทางในสมัยแรกๆมาจกข้อเขียนนักประวัติศาสตร์และนักเดินทางที่มีความสำคัญที่มีชื่อว่าHerodotusซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วง 484 ปี ถึง 424 ปีก่อนครีสตกาลอาจเรียกได้ว่าเป็นนักเขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวคนแรกของโลกก็ว่าได้
หนังสือคู่มือนำเที่ยวปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ400ปีก่อนคริตสกาลซึ่งครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเอเธนส์ สปาร์ตา และเมืองทรอย นักเขียนเกี่ยวกับการท่องเที่ยวชาวกรีกชื่อPausaniasได้เขียนหนังสือชื่อว่า description of Greeceขึ่นในระหว่างคศ.160-180
การท่องเที่ยวในยุคกลาง
ยุคกลางคือช่วงที่อยู่ระหว่างคศ. 500-1500 หรือเป็นช่วงที่ต่อจากการล่มสลายของอาณาจักรโรมัณ แต่ก่อนจะเข้าสู่ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ยุคกลางเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่ายุคมืด ช่วงเวลาดังกล่าวถนนหนทางถูกปล่อยให้ทรุดโทรมเศรษฐกิจตกต่ำแต่ศาสนจักโรมันคาทอลิค ยังคงเป็นศุนย์รวมสังคมและอำนาจการเดินทางมีความลำบากมากขึ้นและอันตรายมากขึ้น
การพัฒนาการคมนาคมทางถนนในคริสตศตวรรษที่17ถึงต้นศตวรรษ19
ในช่วงก่อนที่จะถึงศตวรรษที่ 16 คนที่ ต้องการเดินทางมีวิธีที่จะทำได้ 3 วิธี คือ ด้วยการเดินเท้าซึ่งเป็นวิธีเดินทางของคนจน วิธีที่สองคือการขี่ม้า และวิธีสุดท้ายคือใช้เสลี่ยงโดยมีคนรับใช้เป็นผู้แบกซึ้งวิธีนี้เป็นเป็นวิธีเดินทางของชนชั้นสูงเท่านั้น หรือไม่ก็ใช้เกวียนเที่ยมด้วยม้า การเดินทางด้วยวิธีการหลังนี้ไม่เป็นที่นิยมเพราะช้าและทรมานเพราะเกวียนไม่มีสปิงหรือแหนบลดการกระเทือน
แกรนด์ทัวร์Grand tour
ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่18เป็นต้นมาได้เกิดการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ขึ้นซึ้งเป็นผลมาจากเสรีภาพและความต้ องการที่จะเรียนรู้ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ยุคที่มีระยะเวลาประมาณ300ปีเริ่มต้นในราวคริสต์ศตวรรษที่15และสิ้นสุดในราวศตวรรษที่17โดยมีออตาลีเป็นแหล่งกำเหนิดและเป็นแบบฉบับให้ประเทศเพื่อนบ้านเรา
ในปีค.ศ.1749dr. Thomas Nugentได้ตีพิมพ์หนังสือคู่มือการท่องเที่ยวออกมาเล่มหนึ่งให้ชื่อว่า the grand tourหนังสือเล่มนี้ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเพื่อการศึกษามากขึ้นนักเดินทางใจกล้าบางคนเดินทางไปไกลถึงอีบยิปต์
การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวประเภทที่อาบน้ำแร่spa
การอาบน้ำแร่หรือspa เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วตั้งแต่ยุคโรมันโดยเชื่อกันว่าน้ำแร่มีคุณสมบัติทางยาแต่ความนิยมการไปอาบน้ำแร่ได้ลดลงในยุคหลังๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าความนิยมจะลดลงโดยสิ้นเชิง เพราะคนที่เจ็บป่วยก็ยังคงเดินทางไปยังเมือง bath ตลอดช่วงของยุคกลางในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
การเดินทางไปรับการอาบน้ำแร่บำบัดด้วยน้ำแร่ได้กลายมาเป็นสถานภาพทางสังคมอย่างรวดเร็วทำให้บรรดาสถานบำบัดทั้งหลายเปลี่ยนแมหน้าจาสถาบันเดิมไปเป็นสถานที่เพื่อความเพลิดเพลินแทน bath
กำเนิดยุคสถานที่ตากอากาศชายทะเล
การอาบน้ำทะเลเพิ่งจะเริ่มเป็นที่นิยมในอังกฤษตั้งแต่สมัยฟื้นฟูศิลปะวิทยาการเป็นต้นมา การอาบน้ำทะเลในสมัยนั้น ผู้อาบทั้งเสื้อผ้าเพราะการถอดเสื้อผ้าว่ายน้ำขัดกับจารีตประเพณีในสมัยนั้น การอาบน้ำทะเลเริ่มต้นขึ้นจากเหตุผลทางด้านสุขภาพ
ความนิยมในการรับการบำบัดด้วยน้ำทะเลซึ่งเป็นผลมาจากผู้คนที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มั่งคั่งขึ้นจากการขยายตัวทางการค้าและอุตสาหกรรมในประเทศอังกฤษ
ปัจจัยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในศตวรรษที่19
จากประวัติย่อของการท่องเที่ยวตั้งแต่อดีตจนถึงศตวรรษที่ 19 เราจะเห็นได้ว่ามีปัจจัยหลายประการที่ส่งเสริมให้เกิดการเดินทาง เราอาจจะแบ่งปัจจัยเหล้านั้นออกเป็น 2 กลุ่มคือ
1.ปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง
2. ปัจจัยดึงดูดให้คนเดินทาง
คนเราควรจะเดินทางได้นั้นจำเป็นต้องมีเวลามากพอและมีเงินที่จะใช้เพื่อการเดินทางและตลอดทุกยุคทุกสมัยปัจจัยทั้ง2นี้เอื้อให้คนในสังคมบางกลุ่มเท่านั้นที่จะเดินทางได้
ยุคของเครื่องจักรไอน้ำ:กำเนิดการเดินทางโดยรถไฟ
การพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีสองประการในตอนต้นศตวรรษที่ 19 ได้มีผลอย่างยิ่งสำคัญต่อการขนส่งและการเดินทางโดยทั่วไป การพัฒนาทางเทคโนโลยีประการแรกคือการสร้าพาหนะประเภทรถไฟ
ผู้ประกอบกินจการท่องเที่ยวคนแรกน่าจะได้แก่ sir Rowland hillประธานบริษัทรถไฟเมือง Brighton ซึ่งจัดการท่องเที่ยวแบบเหมาเป็นครั้งแรกโดยนำนักท่องเที่ยวจากwade bridge ไปยังBrighton
Thomas cook ได้ชื่อว่าเป็นผู้ประกอบการที่เป็นผู้ริเริ่มที่มีความสำคัญที่สุดต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในระยะเริ่มแรกในปี 1841 ขณะที่ cook ยังเป็นเลขาธิการของmidland temperance association เขาได้จัดทัวร์พาสมาชิกของสมาคม เดินทางจาก Leicester ไปยังlough borough ในราคา 1 ชิลลิ่ง 5เพนนี
เรือกลไฟ
ขณะที่รถไฟทำให้เกิดการเดินทางภาคพื้นดิน เทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ทำให้เกิดการพัฒนาเรือกลไฟเพื่อการเดินทางทางน้ำ การพัฒนาทางด้านการค้ากับทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทวีปอเมริการเหนือทำให้ประเทศอังกฤษต้องพัฒนาการสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ ที่เร็วขึ้นและเชื่อใจได้มากยิ่งขึ้น
Thomas cook ได้จัดนำคณะทัวร์ของเขาออกเดินทางไปท่องเที่ยวทวีปอเมริกาเหนือเป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1866 และต่อมาในปีค.ศ. 1872 เขาได้จัดทัวร์รอบโลกพาลูกค้า 12 คนไปเที่ยวเป็นเวลา 220 วันในราคา200ปอนด์
การท่องเที่ยวในศตวรรษที่20(1901-20)ช่วง50ปีแรก
ในช่วงนี้การท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อไป เพราะความมั่งคั่งของผู้คน ความอยากรู้อยากเห็น และทัศนคติที่กล้าแสดงออกมากขึ้นในยุคหลังสมัยวิคติเรีย ประกอบกับการพัฒนาระบบการขนส่งอย่างต่อเนื่อง นักเดินทางมีความปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บและการโจมตีของ โจรผู้ร้าย ทวีปยุโรปมีความั่นคงทางการเมือง เอกสารเดินทางก็ไม่ยุ่งยากตั้งแต่ ปี 1860 เป็นต้นมาหนังสือเดินทางไม่ต้องใช้ในการเดินทางที่ทวีปยุโรป
การท่องเที่ยวหลังสงครามโลกครั้งที่2
การเดินทางทางอากาศมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วหลังสงครามโลกครั้งที่2ถึงแม้ว่าในช่วงทศวรรษที่ 1950 ค่าโดยสารจะค่อนข้างมีราคาแพงก็ตามแต่เมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางด้วยวิธีการอื่นการเดินทางโดยเครื่องบินก็ยับนับว่าไม่แพง
จำนวนผู้โดยสารี่เดินทางทางอากาศเพิ่มมากกว่าผู้โดยสารที่เดินทางทางเรือครั้งแรกในปี ค.ศ. 1957 ในต้นทศวรรษที่ 1970 มีการนำเครื่องบินโดยสารที่เร็วกว่าเสียงคือเครื่องบินคองคอร์ด เข้ามาใช้ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น